20 กุมภาพันธ์ 2561
วันนี้เป็นสัปดาห์ที่ 7 สำหรับวิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย วันนี้เราเรียนเรื่อง การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ตามชื่อวิชาเลยค่ะ
บทที่ 5 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
๏ วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็ก
วิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็ก อาจจัดได้ 4 วิธีดังนี้
วิธีที่ 1 การอบรมเลี้ยงดูแบบความรักความอบอุ่น แบบประชาธิปไตย
วิธีที่ 2 การอบรมเลี้ยงดูเด็กแบบคาดหวังเอากับเด็ก
วิธีที่ 2 การอบรมเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย
วิธีที่ 4 การอบรมเลี้ยงดูแบบรักถนอมมากเกินไป
๏ การดูแลเด็กวัยทารก
เด็กวัยทารกตั้งแต่คลอดจากครรภ์มารดาไปจนถึง 2 ปีเป็นวัยที่สำคัญที่สุดในการวางรากฐานสำคัญต่างๆ ของชีวิตในทุกๆด้านเป็นระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด บิดามารดาผู้เลี้ยงดูจึงควรให้เวลานี้ เพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยตอบสนองความต้องการ จำเป็นต่างๆ เพื่อให้ทารกมีพัฒนาการที่ดี ทั้งทางกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา
๏ การเลี้ยงทารกด้วยนมแม่
นมแม่ เป็นนมที่เหมาะสมที่สุดในการเลี้ยงดูเด็กทารก ในระยะแรกของชีวิตเพื่อการเจริญเติบโต และการสร้างภูมิต้านทานโรค ดังเหตุผลต่างๆต่อไปนี้
1. คุณค่าทางโภชนาการของนมแม่ นมแม่แบ่งได้เป็น 2 ระยะ
1.1. น้ำนมเหลือง เป็นน้ำนมที่ออกมาในระยะ 2 ถึง 4 วันแรกจะหลั่งภายใน 12 ถึง 24 ชั่วโมงหลังคลอด
1.2. น้ำนมแม่ หลังคลอด 2 ถึง 4 วัน
2. ลักษณะที่ดีของนมแม่
นมแม่มีสารอาหารครบถ้วน สะดวกไม่ต้องเสียเวลาชง นมแม่สะอาดและปลอดภัยมีสารป้องกัน การติดเชื้อลดอัตราการเกิดโรคภูมิแพ้ นมแม่ไม่ทำให้ลูกอ้วนมีผลดีต่อจิตใจ มีผลดีต่อแม่ทำให้มดลูกไม่เข้าอู่เร็ว
3. หลักการให้นมทารกด้วยนมแม่
3.1. การเตรียมตัวของแม่ก่อนคลอด ควรมีการออกกำลังและ เตรียมใจไว้ ด้วยการเตรียมหัวนม ควรจะเริ่มทำในระยะกลางกลางของการตั้งครรภ์
3.2. การให้นมลูกอ่านให้ทุก 3-4 ชั่วโมงหรือตามความต้องการของลูกก็ได้
4. การให้นมผสม
4.1. ชนิดของนมผสม
- นมผงคล้ายนมมารดา
- นมผมครบส่วน
- นมข้นจืด
- นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว
4.2. วิธีให้นมผสมหรือนมขวด ไม่ควรใช้ผ้าหรือหมอนรองหนุนขวดให้ทารกนอนดูดได้และไม่ควรให้ทารกนอนดูดนม จนหลับไป โดยยังอมหัวนมอยู่
4.3. การชงนม สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือความสะอาด นมที่แน่ใจว่าสะอาด คือนมที่ชงกินมื้อต่อมื้อ
4.4. การทำความสะอาดขวดนมและหัวนม สามารถทำได้โดยการนำขวดนมทั้งชุดไปต้ม
๏ ข้อแนะนำในการให้อาหารเสริมทารก
1. ไม่ควรให้อาหารอื่นนอกจากนมแม่ก่อนอายุ 4 เดือน
2. เมื่อเด็กอายุได้ 4 เดือนเต็มจะเริ่มให้อาหารอื่นได้
3. การให้อาหารใหม่แต่ละชนิดควรเว้นระยะห่าง นาน 1-2 สัปดาห์
4. ถ้าเด็กปฏิเสธอาหารในครั้งแรกๆ อย่าพยายามยัดเยียดหรือบังคับให้กิน
5. อย่าปรุงอาหารรสจัดให้แก่เด็ก
6. ไม่ควรให้น้ำหวานแก่เด็ก
7. ก่อนมื้ออาหารประมาณ 2 ชั่วโมงไม่ควรให้เด็กกินขนมหรือกินเล่น
8. การเตรียมอาหารสำหรับเด็กต้องระวังในเรื่องความสะอาด
9. ถ้าทารกท้องผูกการให้อาหารเสริมจะช่วยได้มากช่วยได้มาก
10. ให้อาหารที่ทำสุกใหม่ๆแก่ทารก
11. การให้เด็กกินอาหารนั้นควรให้กินก่อนการดื่มนมแม่
12. ในการเตรียมอาหารเด็กควรให้มีอาหารหลากหลายชนิด
๏ ปัญหาเด็กวัยทารก
1. ปัญหาจากการร้อง
2. ปัญหาเกี่ยวกับการนอน
3. ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
4. ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง
5. ปัญหาเกี่ยวกับปากและนัยน์ตา
6. ปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ
๏ การอบรมเลี้ยงดูเด็กวัยก่อนเรียน
เด็กวัยก่อนเรียน หรือเด็กมต้นมีอายุ 2-5 ปี เด็กวัยก่อนเรียนเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตเพราะเป็นวัยทองของการวางรากฐานบุคลิกภาพของมนุษย์ ระยะนี้เป็นระยะที่เกิดการเรียนรู้มากที่สุดในชีวิต เป็นช่วงพัฒนาการที่สำคัญที่สุด ที่จะสร้างบุคลิกภาพให้แก่เด็ก เด็กจะเป็นคนอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูในวัยนี้เป็นสำคัญ
๏การสร้างระเบียบวินัย
1. หลักของระเบียบวินัยมีหลักสำคัญ 4 ประการ
- เด็กต้องประพฤติในสิ่งที่ดี และขจัดพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนา
- เด็กต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจกับการทำดีและไม่พึงพอใจกับการทำที่ไม่ดี
- เด็กต้องการทำความดีจนกระทั่งเกิดความเคยชินหรือเกิดเป็นนิสัยโดยไม่ต้องมีใครแนะนำ
- เด็กต้องเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่พึงปรารถนาเป็นพฤติกรรมที่ดีที่พึงปรารถนาของสังคม
2. การฝึกวินัย นักจิตวิทยาได้แยกการฝึกวินัยออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆคือ
- การฝึกวินัยโดยการใช้ความรักเป็นตัวนำ
- การฝึกวินัยโดยใช้วัตถุเป็นตัวนำ
- การวางกฎเกณฑ์
3. การช่วยให้เด็กรู้จักบังคับตนเอง
4. การปฏิบัติตนของพ่อแม่ในการฝึกนิสัย
๏ การฝึกลักษนะนิสัยที่ดี
1. การรับประทานอาหาร
1.1. สร้างนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร
1.2. ให้เด็กรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
1.3. ไม่ควรให้เด็กรับประทานอาหาร รสจัด น้ำอัดลม อาหารที่มีไขมันมากเกินไปอาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง อาหารที่มีผงชูรสมาก และอาหารที่เด็กแพ้เฉพาะราย
2. การฝึกการขับถ่าย
การฝึกนิสัยการขับถ่ายให้แก่เด็กนั้น มีความแตกต่างกันระหว่างเด็กทารกกับเด็กวัยก่อนเรียน การฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป และใช้ความอดทนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการฝึก การฝึก ก่อนเด็กจะมีความพร้อม อาจจะทำให้เด็กมีปัญหาเกิดขึ้น
3. การฝึกนิสัยการนอน
3.1. จัดสภาพแวดล้อมให้ดีเหมาะกับการนอน ก่อนนอนไม่ควรดื่มน้ำมากและปัสสาวะให้เรียบร้อย
3.2. การกำหนดเวลาจะช่วยให้เด็กเคยชินและนอนได้นานๆ ก่อนนอนควรให้เด็กดูภาพสวยงามและเป็นความรู้เล็กน้อยหรือเล่านิทาน
4. การฝึกนิสัยการอาบน้ำแต่งตัว
4.1. การอาบน้ำ เมื่อถึงเวลาอาบน้ำให้เตือนล่วงหน้า 5 นาที และเตรียมเครื่องใช้ในการอาบน้ำให้พร้อมคนสอนให้เด็กถูกตัวเองในที่ถูกถึง ให้เด็กเห็นว่าการอาบน้ำเป็นเรื่องสนุก
4.2. การแต่งตัว ผู้ใหญ่ควรเปิดโอกาสให้เด็กแต่งตัวเอง เพื่อให้เด็กฝึกการปฏิบัติตนในเรื่องการแต่งตัว ชมเชยเมื่อเด็กได้ทำถูกต้อง
๏ ปัญหาของเด็กก่อนวัยเรียน
1. ปัญหาด้านสุขภาพกายสุขภาพจิต
สาเหตุของปัญหาเกี่ยวข้องกับครอบครัว คือแม่ไม่นิยมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พ่อแม่เลี้ยงดูเด็กอย่างทารุณขาดคุณธรรมและจริยธรรม
2. ปัญหาด้านโภชนาการ
สาเหตุของปัญหาเกี่ยวข้องกับครอบครัว คือ ขาดความรู้ด้านโภชนาการ นอกจากนี้เกิดจากพ่อแม่ขาดความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับอาหาร
3. ปัญหาด้านสติปัญญาและความสามารถพื้นฐาน
สาเหตุของปัญหา คือ พ่อแม่ขาดความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของเด็ก
4. ปัญหาทางด้านสังคม วัฒนธรรม และจริยธรรม
สาเหตุของปัญหาเกี่ยวข้องกับครอบครัว คือ เด็กเป็นบุตรนอกสมรสและเกิดจากการตั้งครรภ์ที่พ่อแม่ไม่พึงปรารถนา พ่อแม่ขาดการศึกษา และขาดความรับผิดชอบครอบครัวแตกแยก
เมื่ออาจารย์สอนเกี่ยวกับเนื้อหาเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ก็ได้ให้ดูคลิปวีดีโอเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
ความรู้ที่ได้รับ : การอบรมเลี้ยงดูเด็กควรเริ่มตั้งแต่การตั้งครรภ์ จนเด็กคลอดออกม ถ้าเราเลี้ยงดูเด็กอย่าง เด็กก็จะเป็นอย่างนั้น
ประเมินอาจารย์ : เวลาที่อาจารย์สอน อาจารย์จะคอยยกตัวอย่างที่สามารถเข้าใจได้ และหามุกมาให้นักศึกษาคลายเครียด
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆมีความตั้งใจมาก ฟังกันอย่าสงบ
ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน และสรุปสิ่งที่ได้เรียนมาได้